อันตราย! อาการปวดเข่า เข่าบวม สัญญาณเตือน “โรคเข่าบวมน้ำ”

หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่กำลังรู้สึกเจ็บเข่าเวลางอ รู้สึกปวดตึง ขัดข้อ เดินได้ไม่สะดวก รู้สึกว่าตัวเองมีอาการปวดเข่า เข่าบวมผิดปกติ และ บริเวณลักยิ้มใกล้กับลูกสะบ้าไม่มีรอยบุ๋มด้วย นั่นอาจหมายถึงว่า คุณกำลังเป็น “โรคเข่าบวมน้ำ” อยู่ก็เป็นได้ ว่าแต่ว่าโรคเข่าบวมน้ำคืออะไร ลักษณะอาการเป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร ใครบ้างที่มีความเสี่ยง และเราจะรักษาเข่าบวมน้ำได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากทุกคนกัน

ทำความรู้จักกับโรคเข่าบวมน้ำ

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ปกติแล้วภายในข้อเข่าของเราจะมี กระดูกอ่อนรองข้อเข่า (Articular Cartilage) เอ็นไขว้หน้า (Anterior Cruciate Ligament) เอ็นไขว้หลัง (Posterior Cruciate Ligament) หมอนรองกระดูก (Meniscus) และ เยื่อหุ้มข้อ (Synovial Membrane) โดยเยื่อหุ้มข้อจะมีการผลิตน้ำหล่อเลี้ยง เพื่อป้องกันการเสียดสีของข้อเข่า เป็นปกติอยู่แล้ว

แต่เมื่อใดที่อวัยวะภายในหัวเข่า เกิดความผิดปกติ มีการเสียดสีของกระดูกหัวเข่า กับ หมอนรองกระดูกเข่า ทำให้หัวเข่าแบกรับน้ำหนักมากเกินไป และ เกิดการอักเสบ เยื่อหุ้มข้อจะถูกกระตุ้น ให้สร้างน้ำหล่อเลี้ยงขึ้นมามากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ เมื่อน้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อเข่ามีมากเกินความจำเป็น ก็จะเกิดการสะสมของน้ำภายในหัวเข่า นำไปสู่โรคเข่าบวมน้ำ (Knee Effusion) นั่นเอง

สาเหตุของโรคเข่าบวมน้ำ

เราจำเป็นต้องทราบ ว่าสาเหตุของโรคเข่าบวมน้ำ มีอะไรบ้าง เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยง ในการเป็นโรคเข่าบวมน้ำหรือไม่ โดยสาเหตุหลักๆ แบ่งออกเป็น 3 สาเหตุ ดังต่อไปนี้

1. โรคเข่าบวมน้ำ ที่เกิดจากอุบัติเหตุ : เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เช่น หกล้ม รถล้ม ตกต้นไม้ ตกจากที่สูง โดยหัวเข่าเกิดการกระแทกอย่างแรง จนทำให้อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ

2. โรคเข่าบวมน้ำ ที่เกิดจากโรคบางชนิด : หากคุณมีโรคประจำตัว ที่เกี่ยวกับการอักเสบของกระดูก หรือ ข้อเข่า เช่น โรคเก๊าท์ (Gout) โรครูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) โรคพุ่มพวง (SLE) เป็นต้น ก็เป็นสาเหตุ ที่ก่อให้เกิดโรคเข่าบวมน้ำได้เช่นกัน

3. โรคเข่าบวมน้ำ ที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย : โดยปกติแล้วความแข็งแรงของกระดูก และ ข้อเข่า จะเสื่อมสภาพตามอายุที่มากขึ้น ดังนั้นผู้สูงวัยจึงมีโอกาสเกิดโรคเข่าบวมน้ำได้เช่นกัน

อาการปวดเข่า เข่าบวม เจ็บเข่าเวลางอ ใช่อาการเข่าบวมน้ำหรือไม่?

นอกจากอาการเข่าบวมด้านในตรงบริเวณลักยิ้มใกล้ลูกสะบ้าไม่มีรอยบุ๋มแล้ว หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย แสดงเป็นโรคเข่าบวมน้ำแน่นอน เช่น

• เข่าบวม ปวดเข่าตลอดเวลา แม้จะรักษาเข่าบวม ด้วยวิธีประคบร้อน ประคบเย็น แล้วก็ไม่ดีขึ้น
• มีก้อนหลังหัวเข่า คล้ายลูกปิงปอง (Baker’s cyst)
• เจ็บเข่าเวลางอ
• รู้สึกตึงรอบหัวเข่า ขัดเข่า
• มีรอยแดงรอบหัวเข่า
• มีเสียงดังในข้อเข่า ขณะเคลื่อนไหวร่างกาย

หากคุณมีอาการดังที่กล่าวไปข้างต้น แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเป็นโรคเข่าบวมน้ำอย่างแน่นอน ต้องรีบทำการพบแพทย์ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษาเข่าบวมน้ำให้เร็วที่สุด

รักษาเข่าบวมน้ำ ด้วยการผ่าตัด เจาะเข่า เสี่ยงกลับมาเป็นซ้ำ!

หลายคนอาจจะเข้าใจว่า การรักษาเข่าบวมน้ำ จะต้องให้แพทย์เจาะเข่า เพื่อนำน้ำออกมา ซึ่งความจริงแล้ว “ไม่จำเป็นเสมอไป” เพราะการเจาะเข่าเพื่อนำน้ำออกมา เป็นทางเลือกสุดท้ายที่แพทย์จะเลือกใช้ในการรักษา ซึ่งเราสามารถเลือกรักษาเข่าบวมน้ำได้หลายวิธี

การรักษาเข่าบวมน้ำด้วยวิธีแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์จะทำการรักษาตามระยะของอาการปวดเข่า เข่าบวม โดยแพทย์จะทำ MRI เพื่อตรวจดูว่าเข่าบวมเกิดจากสาเหตุใด

• หากเกิดเพราะอุบัติเหตุ และ ส่งผลกระทบต่อข้อเข่าภายใน แต่ไม่ได้เสียหายมากนัก แพทย์ก็จะทำการให้ยาลดการอักเสบ และ บวม ตามอาการ และ รักษาข้อเข่าที่เสียหายควบคู่ไปด้วย
• หากเกิดเพราะโรคบางชนิด เช่น โรคเก๊าท์, โรครูมาตอยด์, โรคข้อเข่าเสื่อม ฯลฯ แพทย์ก็จะทำการให้ยา และ รักษาโรคควบคู่ไปด้วย
• หากเกิดเพราะความเสื่อมของร่างกาย ด้วยอายุที่มากขึ้น แพทย์ก็จะทำการให้ยาลดการอักเสบ และ บวม พร้อมให้ปรับพฤติกรรมชีวิต หันมาออกกำลังกายบริหารเข่า รับประทานอาหารบำรุงหัวเข่า เป็นต้น

แต่หากหัวเข่าบวมรักษาตามวิธีข้างต้นแล้วไม่หาย หัวเข่าบวมน้ำ จนเกิดความเสียหายมากเกิน 90% แพทย์จะทำการรักษาเข่าบวมน้ำ ด้วยวิธีผ่าตัดส่องกล้อง (Arthroscopic Surgery) หรือ เจาะเอาน้ำออก ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์นั่นเอง แต่หากอาการอักเสบที่เข่า ไม่หายขาด ก็มีโอกาสเกิดการสะสมน้ำในเข่าขึ้นมาใหม่ และ กลับมาเป็นโรคเข่าบวมน้ำได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน รวมถึงต้องทำกายภาพบำบัด ควบคู่เป็นระยะเวลานาน กว่าที่อาการจะกลับมาเป็นปกติ

รู้ไหม? เราสามารถป้องกัน และรักษาเข่าบวมน้ำ ด้วยตัวเองได้

จากที่กล่าวไปข้างต้น ถึงการรักษาเข่า ด้วยวิธีแพทย์แผนปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า แพทย์จะเน้นการให้ยาลดการอักเสบ และ ลดบวมเป็นหลัก เนื่องจากอาการของโรคเข่าบวมน้ำ คือ มีอาการปวดเข่า เข่าบวมเป็นหลักนั่นเอง นอกเสียจากว่า จะมีอาการหนักจริงๆ แพทย์ถึงจะทำการผ่าตัด หรือ เจาะเข่า เพื่อนำน้ำออกมา

แสดงให้เห็นว่า เราเองก็สามารถป้องกัน และ รักษาเข่าบวมน้ำด้วยตัวเองได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากเสี่ยงกับสารเคมีจากยา ที่ตกค้างในร่างกาย หรือ ผลกระทบอื่นๆ ในการรับประทานยา ก็สามารถเลือกใช้วิธี “รับประทานยาสมุนไพร” เพื่อรักษาเข่าบวม ปวดเข่า เข่าอักเสบ เข่าบวมน้ำได้เช่นกัน นอกจากนี้ การรับประทานยาสมุนไพร แม้ไม่เกิดอาการปวดเข่า เข่าบวมน้ำ ก็เป็นการช่วยบำรุงร่างกาย ไปในตัวด้วย หากเกิดอาการเข่าบวม ปวดเข่า หรือ โรคเกี่ยวกับเข่าขึ้นมาจริงๆ อาการก็จะไม่หนัก เท่าคนที่ไม่เคยบำรุงร่างกายนั่นเอง

ซึ่งการรับประทานยาสมุนไพรบำรุงเข่า ดีกว่าการรับประทานอาหารเสริม พวกคอลลาเจนแก้ปวดเข่า คอลลาเจนบำรุงกระดูก คอลลาเจนไขข้ออย่างแน่นอน เพราะจากข้อมูลที่ค้นพบตามงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ คอลลาเจนประเภทที่ 2 (Collagen Type 2) ที่นิยมรับประทานกัน จะพบเฉพาะงานวิจัยเพื่อการตลาด ของบริษัทขายวัตถุดิบในต่างประเทศ แต่ในทางการแพทย์ ยังไม่มีงานวิจัยที่เชื่อถือได้ ว่าสามารถรักษาโรค เกี่ยวกับกระดูก และ ข้อเข่าได้อย่างแท้จริง

เข่าบวมน้ำ ปวดเข่า เข่าอักเสบ หัวเข่าบวมรักษาได้ด้วยยาสมุนไพรไทย

ยาสมุนไพรหมออรรถวุฒิ เป็นหนึ่งในตำรับยาสมุนไพรไทย ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน มากกว่า 30 ปีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมียาสมุนไพรที่สามารถรักษาได้หลายโรค โรคเข่าบวมน้ำ ปวดเข่า เข่าบวม เข่าอักเสบ ข้อเข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อมก็มี ซึ่งมีทั้งยาสมุนไพรที่ใช้รับประทาน และยาใช้ภายนอกด้วย ได้แก่ ยากษัยเส้น ยาตรีโลก และไมรอทนาโนสเปรย์

1. ยากษัยเส้น

ยากษัยเส้น เป็นยาสมุนไพรรักษาเข่าบวม เข่าบวมน้ำได้จริง นอกจากนี้ ยังรักษาอาการปวดหัวเข่า ข้อเข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกเสื่อม โรคเก๊าท์ โรครูมาตอยด์ กระดูกทับเส้นประสาท และบำรุงกระดูกได้ด้วย ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ ในการรักษาโรคเข่าบวมน้ำ ที่เกิดจากอุบัติเหตุ เกิดจากโรคเกี่ยวกับข้อ และ ความเสื่อมของร่างกาย ได้ครบทุกรูปแบบ

2. ยาตรีโลก

ยาตรีโลก เป็นยาสมุนไพรรักษาเข่าบวม เข่าบวมน้ำ ที่รับประทานคู่กับ ยากษัยเส้น โดยหน้าที่หลักของยาตรีโลก คือ การช่วยเคลียร์ผนังหลอดเลือด ให้โล่งขึ้น และ ช่วยให้ยากษัยเส้น เข้าไปทำหน้าที่ รักษาถึงเส้นประสาทชั้นลึก นอกจากนี้ ยังช่วยลดการอักเสบ ของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ลดอาการบวม ลดไขมันส่วนเกิน ที่อาจทำให้หัวเข่าของเรา รับน้ำหนักมากเกินไป รวมไปถึง ช่วยแก้อาการเหน็บชา ปลายประสาทอักเสบได้ด้วย

3. ไมรอทนาโนสเปรย์ (Mirott Nano Spray)

ไมรอทนาโนสเปรย์ สเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่า เข่าอักเสบ บวม ซึ่งเป็นนวัตกรรมนาโนโมเลกุล ใหม่ล่าสุด 1 เดียวในประเทศไทย ลิขสิทธิ์เฉพาะ ด้วยการพัฒนาอนุภาคนาโน NANOPi การกักเก็บสารสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ สกัดจากสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น ไพล ขมิ้นชัน ขิง เถาวัลย์เปรียง เป็นต้น พัฒนาโดย สวทช. ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ด้วยอนุภาคนาโน จึงทำให้ไมรอทสเปรย์ ซึมลึกเข้ารักษาที่ต้นเหตุ แบบวัดผลได้ อีกทั้งผ่านการวิจัย และ การตรวจสอบประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน Diclofenac แล้วพบว่า “ตัวอนุภาคนาโน ของไมรอทนาโนสเปรย์ มีความสามารถในการยับยั้งการอักเสบ ได้มากกว่า Diclofenac ถึง 80% เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังสามารถต้านกลไก ที่เป็นสาเหตุของอาการปวดเข่า เข่าบวม เข่าอักเสบ เข่าเสื่อม ได้มากถึง 80% อีกด้วย”

ไมรอทนาโนสเปรย์ เป็นสเปรย์แก้ปวด ที่เน้นการรักษาในระยะยาว เนื่องจากมีประสิทธิภาพบำรุงกระดูก และ ไขข้อได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเข่า หรือ เข่าเสื่อมอย่างเรื้อรัง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ชาวออฟฟิศ และ ผู้ที่ชอบออกกำลังกาย เล่นกีฬา ที่มักเกิดปัญหาปวดอักเสบ ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เข่าเสื่อม บ่อยๆ ใช้ตัวยาทั้ง 3 นี้ในการรักษา เป็นการแก้ที่ต้นเหตุอย่างตรงจุด ได้มากกว่าการกินอาหารเสริม และ ไม่ต้องรับผลเสียจากยาเคมี อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคเข่าบวมน้ำ และโรคเกี่ยวกับการปวดข้อต่างๆ ให้หายดีขึ้นระยะยาวสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หากมีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ