หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่นั่งทำงานตลอดทั้งวัน แล้วรู้สึกมีอาการปวดหลังส่วนล่าง นับเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่า “กระดูกก้นกบ” ของคุณอาจกำลังมีปัญหา โดยกระดูกก้นกบ เป็นกระดูกขนาดเล็กที่แข็งแรงมาก อยู่บริเวณปลายสุดของกระดูกสันหลัง เชื่อมติดกับกระดูกกระเบนเหน็บ มีหน้าที่แบกรับน้ำหนักร่างกาย และ กระจายแรงในขณะที่เรานั่ง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากคุณนั่งนาน ๆ แล้วรู้สึกปวดกระดูกก้นกบขึ้นมา หากเกิดการอักเสบหนัก บางครั้งจะรู้สึกปวดก้น นั่งเบ่งอุจจาระแล้วปวดก้นกบได้ด้วย ซึ่งอาการปวดก้นกบ สาเหตุเกิดจากอะไร แล้วจะทำอย่างไรเมื่อปวดก้นกบ เราได้รวบรวมข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ไว้ให้ทุกท่านได้ทราบแล้ว
ปวดก้นกบ เกิดจากสาเหตุใด
สาเหตุของอาการปวดก้นกบ เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
1. ปวดก้นกบ สาเหตุจากการนั่ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยสุด ไม่ว่าจะเป็นการนั่งนาน ๆ นั่งบนพื้นแข็ง นั่งผิดท่า ขี่หรือนั่งมอเตอร์ไซค์นาน เนื่องจากกระดูกก้นกบ ถูกแรงกดทับมากเกินไป จนทำให้เจ็บ ปวดก้นกบ รวมถึงกล้ามเนื้อ และ เส้นเอ็นรอบกระดูกก้นกบเกิดการอักเสบ
2. ปวดก้นกบ สาเหตุจากตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยเช่นกัน เนื่องจากน้ำหนักของคุณแม่ตั้งครรภ์ไปกดทับกระดูกก้นกบ เส้นเอ็นรอบกระดูกก้นกบถูกยืดออกมากขึ้น ทำให้ปวดก้นกบขึ้นมาได้
3. ปวดก้นกบ สาเหตุจากน้ำหนักมาก เป็นโรคอ้วน กรณีนี้จะคล้ายกับสาเหตุการตั้งครรภ์ เนื่องจากน้ำหนักที่มากเกินเกณฑ์มาตรฐาน ไปกดทับกระดูกก้นพบ ทำให้กระดูกสันหลังส่วนล่าง แอ่นหน้ามากเกินไป กระดูกก้นกบจึงโค้งแอ่นตาม จึงมีอาการปวดหลังส่วนล่าง นั่งแล้วปวดหลัง ยืนแล้วปวดหลังนั่นเอง
4. ปวดก้นกบ สาเหตุจากการเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้มก้นกระแทกพื้น โดนรถชนท้าย จนทำให้กระดูกก้นกบเคลื่อน เส้นเอ็นรอบกระดูกก้นกบอักเสบ
5. ปวดก้นกบ สาเหตุจากข้อกระดูกเสื่อม พบได้มากในผู้สูงวัย เนื่องจากข้อกระดูก จะเสื่อมตามอายุที่มากขึ้นอยู่แล้ว
ทำอย่างไรเมื่อนั่งแล้วปวดหลัง จนปวดก้นกบ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องนั่งทำงานนาน จนรู้สึกถึงอาการปวดหลังส่วนล่าง ปวดก้นกบ การแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทำตามนี้
- ปรับเปลี่ยนท่านั่ง คือสิ่งที่ควรทำ เป็นอันดับแรก เพราะอาการปวดก้นกบ สาเหตุหลัก ๆ มาจากท่านั่งนั่นเอง โดยห้ามนั่งหลังค่อม นั่งแอ่นหลัง หรือนั่งเอนหลังเด็ดขาด ควรเปลี่ยนมานั่งหลังตรง หรือ นั่งโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อลดการกดทับของน้ำหนักตัวลงบนกระดูกก้นกบนั่นเอง
- ใช้หมอนหลุม หรือ หมอนรูปโดนัท เป็นตัวช่วยในการนั่งทำงาน เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดทับของน้ำหนักตัวลงบนกระดูกก้นกบ
- ขยับร่างกายบ้าง โดยการลุกขึ้นยืน หรือ เดินไปเดินมา สัก 5 – 10 นาที ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อคลายกล้ามเนื้อ และแรงกดทับของกระดูกก้นกบ จะได้ไม่เกิดอาการนั่งแล้วปวดหลังตอนทำงานด้วย
- ยืดกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่าง ด้วยท่าบริหารต่าง ๆ
- หากปวดก้นกบ สาเหตุจากการเกิดอุบัติเหตุ ให้รีบประคบเย็นทันที และต้องทำภายใน 48 ชั่วโมงแรก หลังประสบอุบัติเหตุ เพื่อลดการอักเสบ ลดบวม โดยประคบเย็นประมาณ 20 – 30 นาที วันละ 2 – 3 ครั้ง และ หลังผ่านไปแล้ว 48 ชั่วโมงให้ประคบร้อน เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และลดปวดก้นกบ โดยประคบร้อนครั้งละ 15 – 20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง
- ทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ยาไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) ยาแอสไพริน (Aspirin) ยานาพร็อกเซน (Naproxen) ฯลฯ
- ใช้ครีม น้ำมัน หรือ สเปรย์แก้ปวดข้อ ฉีดบริเวณที่ปวด
- ฉีดยาสเตียรอยด์ เข้าบริเวณที่ปวด ทั้งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างมาก ปวดก้นกบมาก ทานยาไม่หาย ปวดก้นกบเรื้อรัง โดยการฉีดสเตียรอยด์ 1 ครั้ง ฤทธิ์ยาจะอยู่ได้ประมาณ 1 – 3 เดือน ซึ่งมีข้อเสีย คือ ฤทธิ์ยาจะไปกดไขกระดูก กระตุ้นให้ข้อกระดูกก้นกบเสื่อมเร็วขึ้น เสี่ยงต่อการเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแอได้ด้วย
แนะนำ 5 ท่ายืดกล้ามเนื้อ ลดปวดก้นกบได้
การยืดกล้ามเนื้อ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ลดอาการปวดก้นกบ และอาการปวดหลังส่วนล่างได้ โดยเราขอแนะนำ 5 ท่า ดังนี้
ท่าที่ 1
นอนหงาย แล้วงอเข่าขวา เบี่ยงไปหาสะโพกข้างซ้าย จากนั้นเอามือทั้งสองข้างกอดเข่าไว้ พร้อมบิดสะโพกไปข้างซ้ายให้มากที่สุดจนรู้สึกตึง ทำค้างไว้ 10 วินาที แล้วค่อยเปลี่ยนขา ทำทั้งหมด 10 เซ็ท/วัน
ท่าที่ 2
นอนหงายพร้อมชันเข่าขึ้น จากนั้นเอาขาข้างหนึ่ง ไขว้ขาอีกข้างเป็นเลข 4 พร้อมใช้มือทั้งสอง สอดใต้ขาไว้ แล้วค่อย ๆ ดึงขา เข้าหาตัวให้มากที่สุด ทำค้างไว้ 10 วินาที แล้วเปลี่ยนข้าง ทำทั้งหมด 10 เซ็ท/วัน
ท่าที่ 3
นอนหงายแล้วชันเข่าข้างหนึ่งขึ้น ส่วนขาอีกข้างให้ยกขึ้นตรงชี้ฟ้า แล้วเอามือทั้งสองจับใต้ข้อพับเข่าไว้ จากนั้นค่อย ๆ ดึงขา เข้าหาลำตัวให้มากที่สุด พร้อมกระดกปลายเท้าด้วย ทำค้างไว้ 10 วินาที แล้วเปลี่ยนข้าง ทำทั้งหมด 10 เซ็ท/วัน
ท่าที่ 4
นอนหงายแล้วงอเข่าทั้งสองข้าง พร้อมกางแขนไปข้างลำตัว จากนั้นค่อย ๆ บิดสะโพกไปด้านซ้าย แล้วหันหน้าไปด้านขวา ให้รู้สึกตึงที่หลัง ทำสลับข้างไป ๆ มา ๆ จำนวน 30 ครั้ง/วัน จะช่วยลดอาการปวดหลังส่วนล่างและปวดก้นกบได้
ท่าที่ 5
นอนหงายแล้วชันเข่าทั้งสองข้างขึ้น มือวางไว้ข้างลำตัว จากนั้นยกก้นขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที แล้วค่อย ๆ วางก้นลง โดยทำซ้ำทั้งหมด 30 ครั้ง/วัน
จะทำอย่างไร? เมื่อยาแก้ปวด ไม่ใช่ทางออกแก้ปวดก้นกบ ในระยะยาว
เชื่อว่าหลายคน พอรู้สึกปวดหลัง ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ ก็มักจะซื้อยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้อักเสบมาทานเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ยาเหล่านี้ เป็นเพียงตัวช่วยบรรเทาอาการปวดก้นกบ ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น อาจทำให้ดีขึ้นได้จริง แต่ก็เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถทำให้อาการหายดีระยะยาวได้ เพราะเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ อีกทั้งหากทานยาเข้าไปมาก ๆ จะส่งผลต่อตับ ไต และอวัยวะภายใน ให้เสื่อมเร็วอีกด้วย
แต่นับว่าเป็นโชคดีของคนไทย ที่ประเทศไทยมียาสมุนไพร แก้ปวดข้อกระดูก ที่สกัดจากสมุนไพร 100% ทำให้ผู้ที่มีอาการปวดก้นกบ ปวดหลังส่วนล่าง ปวดข้อ ปวดกระดูก ไม่ต้องเสี่ยงกับสารเคมีตกค้างในร่างกาย และสามารถหายจากอาการเหล่านี้ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ยาสมุนไพร แก้ปวดข้อ จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ” ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยา อยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ไทย และ เภสัชกร อีกทั้งมี อย. รับรองความปลอดภัย กระบวนการผลิตได้มาตรฐาน GMP เป็นสูตรตำรับเฉพาะ ลิขสิทธิ์หมออรรถวุฒิ ที่ปรุงยาตามหลักการแพทย์แผนไทย
ยาสมุนไพร แก้ปวดข้อ แก้ปวดก้นกบ หมออรรถวุฒิ พิถีพิถันตั้งแต่กรรมวิธีการคัดเลือกแหล่งปลูกของสมุนไพร วิธีการเก็บเกี่ยว นำส่วนของสมุนไพร มาใช้สกัดเป็นยา ที่สด ใหม่ สมุนไพรที่เลือกมาประกอบในตำรับต้องคุมฤทธิ์ เสริมฤทธิ์ประกอบกันอย่างลงตัว ให้ผลการรักษา ลึกถึงแก่นของโรคทุกกลไก ผนวกกับผ่านกรรมวิธีสกัดบริสุทธิ์ ไม่ใช้ตัวทำละลายเคมี จึงปราศจากสารเคมี และ สเตียรอยด์ สามารถทานต่อเนื่องได้ เพื่อการรักษา และ ฟื้นฟูอาการปวดก้นกบ ปวดหลัง ให้หายดีระยะยาว พร้อมชะลอความเสื่อมของข้อ และ กระดูกก้นกบ ได้อีกด้วย
ยากษัยเส้น
“ยากษัยเส้น” ศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นยาสมุนไพร แก้ปวดข้อ ปวดก้นกบ ที่สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% หลากหลายชนิด เช่น เถาวัลย์เปรียงแดงสกัด, เถาวัลย์เปรียงขาวสกัด, โด่ไม่รู้ล้มสกัด, ทองพันชั่งดอกเหลืองสกัด, เถาโคคลานสกัด, เถาวัลย์เปรียงแดงสกัด ฯลฯ ผ่านกรรมวิธีเฉพาะในการสกัด ทำให้ตัวยาเข้าไปรักษา ถึงกลไกการปวดก้นกบ ได้อย่างลงลึก ส่งเสริมกันทุกกลไก COX2, IL1, TNF, PGE, อนุมูลอิสระ ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือ ยาแก้อักเสบ แต่อย่างใด อีกทั้งช่วยในการรักษาอาการปวดหลังส่วนล่าง โรคข้อกระดูกเสื่อม ปวดเส้นเอ็น เส้นเอ็นอักเสบ ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ และ กระดูกให้แข็งแรงขึ้นได้
ยาตรีโลก
“ยาตรีโลก” จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นยาสมุนไพร แก้ปวดข้อ สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% เช่น
- สารสกัดสมอทั้ง 5 (สมอไทย สมอภิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล)
- สารสกัดดีปลี
- สารสกัดขิงแห้ง
- สารสกัดเจตมูลเพลิง
- สารสกัดกระวานเทศ
- สารสกัดทองพันชั่งดอกขาว และ ทองพันช่างดอกเหลือง ฯลฯ
มีหน้าที่เคลียร์ผนังหลอดเลือด ทำให้ตัวยาแทรกซึม เข้ารักษาได้ลึกถึงต้นเหตุ ตามหลักแพทย์แผนไทย ช่วยฟื้นฟูกระดูกก้นกบ ข้อต่อกระดูก เส้นประสาท สลายพังผืดให้ดีขึ้น ทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก อาการปวดก้นกบ ปวดหลังส่วนล่าง ค่อย ๆ ดีขึ้นจนเป็นปกติ
ไมรอทนาโนสเปรย์ (Mirott Nano Spray)
“ไมรอทนาโนสเปรย์” เป็นสเปรย์แก้ปวดข้อ ที่เหล่ามนุษย์ออฟฟิศ หรือ คนที่ชอบนั่งแล้วปวดหลัง ควรมีติดตัว สกัดสมุนไพร แก้ปวดข้อ ที่แตกต่างจากสเปรย์แก้ปวดทั่วไป เนื่องจากเป็นนวัตกรรมนาโนโมเลกุล ใหม่ล่าสุดของประเทศไทย เป็นการพัฒนาอนุภาคนาโน NANOPi การกักเก็บสารสมุนไพร ที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ไม่ใช่การผสมเมนทอล หรือ ยูคาลิปตัส ที่เวลาฉีดแล้วให้ความรู้สึกร้อน – เย็น เพียงชั่วคราว แต่ตัวยาจะซึมลึกผ่านผิวได้ง่าย ออกฤทธิ์ตรงเข้ารักษาอาการปวดก้นกบได้ตรงจุด พัฒนาโดย สวทช. ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ทำร่วมกับ ศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ สามารถฉีดเพื่อรักษา อาการปวดก้นกบ ปวดหลังส่วนล่าง ปวดเข่า ปวดขา ฯลฯ ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การันตีด้วยผลการวิจัย และ การตรวจสอบประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน Diclofenac แล้วพบว่า “ตัวอนุภาคนาโนของ ไมรอทนาโนสเปรย์ มีความสามารถในการยับยั้งการอักเสบ ได้มากกว่า Diclofenac ถึง 80% และยับยั้ง Cox2 , PGE , IL1 , TNF และ อนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของอาการปวดก้นกบ ปวดหลังส่วนล่าง อย่างตรงจุด ครบทุกกลไก ลึกถึงแก่นอีกด้วย”
ไมรอทนาโนสเปรย์แก้ปวดข้อ ปวดก้นกบ มีให้เลือกทั้ง สูตรเย็น สูตรร้อน และ สูตรออริจินัล หากใช้ประจำอย่างต่อเนื่อง ตัวยาจากสารสกัดสมุนไพร จะไปยับยั้งกลไกการอักเสบ ส่งผลให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ เติมเต็มตนเอง ได้ตามธรรมชาติ หมดปัญหาอาการปวดหลังส่วนล่าง ปวดก้นกบเรื้อรังอีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
หากมีข้อสงสัยใด ๆ เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นท์สอบถามได้ เรามีเภสัชกร และ ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพ