เข่าบวมเกิดจากอะไร วิธีสังเกต แนะนำวิธีรักษาหัวเข่าบวม

อาการเข่าบวม เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการประสบอุบัติเหตุ เกิดจากการเล่นกีฬาที่ใช้แรงกำลังขา และ ข้อเข่ามากเกินไป เกิดจากการเป็น โรคข้อเข่าอักเสบ ข้อเข่าเสื่อม เข่าบวมน้ำ ฯลฯ ก่อนเกิดอาการเข่าบวม อย่างเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่านั้น จะรู้สึกปวดหัวเข่ามาก่อน แล้วค่อยๆ เกิดอาการเข่าบวมตามมา

หากรู้สึกเจ็บเข่า ปวดเข่า เข่าบวมมาก ควรทำการพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัย หาสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อหาแนวทางวิธีรักษาหัวเข่าบวม แต่หากอาการเข่าบวมไม่ได้รุนแรงมาก ก็สามารถหาวิธีรักษาหัวเข่าบวมด้วยตัวเองได้ เช่น การประคบร้อน ประคบเย็น รับประทานยาแก้ปวดหัวเข่า รับประทานยาสมุนไพรแก้ปวดเข่า เป็นต้น

เช็คอาการ ก่อนหาวิธีรักษาหัวเข่าบวม

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า ก่อนเข่าบวม เราจะรู้สึกปวดหัวเข่า หรือ เจ็บเข่ามานำมาก่อน เมื่อเกิดอาการปวดหัวเข่าขึ้นมาแล้ว แสดงว่าบริเวณข้อต่อ ที่เชื่อมระหว่าง กระดูกต้นขา และ กระดูกหน้าแข้ง เกิดความผิดปกติ แล้วอาการปวดหัวเข่า เข่าบวมแบบไหน ถึงควรไปพบแพทย์ เพื่อหาวิธีรักษาหัวเข่าบวมล่ะ? ซึ่งวันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกคนกัน

1. ปวดหัวเข่า แม้ไม่ได้ขยับร่างกาย นานวันเข้ามีอาการเข่าบวมขึ้น อย่างชัดเจน

2. ปวดหัวเข่าทุกครั้งที่ขยับขา โดยเฉพาะตอนก้าวขาขึ้น – ลงรถและบันได

3. ปวดเข่า เข่าบวมจนมีไข้ขึ้นสูง

4. มีเสียงเกิดขึ้นในเข่า

5. มีอาการนอนไม่หลับเพราะปวดหัวเข่า เจ็บเข่า

6. ไม่สามารถนั่งยองๆ หรือ งอเข่าได้

7. ไม่สามารถเหยียดขาให้ตรงได้

8. ต้องใช้คนหรือตัวช่วย เช่น ไม้พยุงเดิน เพื่อลุกขึ้นยืน

9. รับประทานยาแก้ปวด ใช้ยาทาภายนอก หรือ รักษาด้วยตนเอง แล้วอาการไม่ดีขึ้น เป็นต้น

โดยอาการในข้อ 3 – 9 นี้ เป็นอาการที่สามารถนำไปสู่ การเกิดเข่าบวมได้ในอนาคต ดังนั้นหากมีอาการในข้อใดข้อหนึ่ง ควรทำการพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัด หรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาวิธีรักษาหัวเข่าบวม ด้วยแนวทางที่เหมาะสม

อาการเข่าบวม บอกโรคอะไรได้บ้าง

วิธีสังเกต อาการเข่าบวมด้วยตัวเองง่ายๆ คือ เมื่อเกิดอาการปวดหัวเข่า ให้เราดูว่าหัวเข่าของเราทั้งสองข้าง ใหญ่เท่ากันหรือไม่ มีรอยแดงหรือไม่ สัมผัสแล้วรู้สึกอุ่นหรือไม่ หากมีอาการที่ไม่เหมือนกันทั้งสองข้าง ต้องให้แพทย์ และ ผู้เชี่ยวชาญ ทำการวินิจฉัย เพื่อหาวิธีรักษาหัวเข่าบวมต่อไป ตามโรคที่เกิดขึ้น เช่น

1. โรคเข่าบวมน้ำ (Knee Effusion)

สาเหตุ : เกิดจากการมีปริมาณน้ำหล่อเลี้ยง ในหัวเข่ามากผิดปกติ เนื่องจากการอักเสบของกระดูกอ่อนรองข้อเข่า (Articular cartilage) เอ็นไขว้หน้า (Anterior Cruciate Ligament-ACL) เอ็นไขว้หลัง (Posterior Cruciate Ligament-PCL) หมอนรองกระดูก (Meniscus) หรือ เยื่อหุ้มข้อ (Synovial membrane) อย่างใดอย่างหนึ่ง จนทำให้เยื่อหุ้มข้อ สร้างน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อป้องกันแรงกระแทกของเข่า มากเกินไปนั่นเอง ทั้งนี้โรคเข่าบวมน้ำ อาจเกิดจากการประสบอุบัติเหตุ หรือ เป็นโรคบางอย่างมาก่อน เช่น โรคเก๊าท์ (Gout) โรครูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) หรือโรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)  เป็นต้น

ลักษณะอาการ :  มีอาการปวดเข่า เข่าบวมอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากลักยิ้มใกล้ลูกสะบ้า มีน้ำดันออกมา จนเข่าดูบวมขึ้น ทำให้รอยบุ๋มบริเวณลักยิ้ม ใกล้ลูกสะบ้าหายไป นอกจากนี้จะรู้สึกตึงที่หัวเข่า งอเข่าไม่ได้ด้วย

2. โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)

สาเหตุ : เกิดจากกระดูกอ่อนภายในข้อเข่าสึกกร่อน จนกระดูกในข้อเข่าเสียดสีกันเอง โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อม จนทำให้เกิดอาการเข่าบวมได้ เช่น พันธุกรรม อายุที่มากขึ้น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การออกกำลังกายอย่างหักโหมเป็นระยะเวลานาน เป็นต้น

ลักษณะอาการ : ปวดหัวเข่า เข่าบวม ข้อเข่าฝืด ไม่สามารถลงน้ำหนักที่เข่าได้อย่างเต็มที่ กดที่หัวเข่าแล้วรู้สึกเจ็บเข่า มีเสียงภายในข้อเข่า หัวเข่าอ่อนแรง เป็นต้น

3. โรคหมอนรองข้อเข่าฉีกขาด (Miniscus Tear)

สาเหตุ : เกิดจากการบิดเข่า งอเข่า หรือหมุนเข่าผิดจังหวะ จนเกิดการบาดเจ็บที่หัวเข่า อาจเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเกิดจากการเล่นกีฬาชนิดที่มีการชน การกระแทก หรือต้องอาศัยความเร็ว เช่น ฟุตบอล รักบี้ อเมริกันฟุตบอล เป็นต้น ซึ่งสามารถนำไปสู่การเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ด้วย

ลักษณะอาการ : ปวดเข่า เข่าบวม มีเสียงในข้อเข่า เข่าฝืด เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก เป็นต้น

4. โรคผิวสะบ้าอักเสบ (Chondromalacia Patellae)

สาเหตุ : เกิดจากการบาดเจ็บ บริเวณกระดูกสะบ้า อาจมาจากการใช้งานเข่ามากเกินไป เข่าได้รับแรงกระแทกบ่อย การออกกำลังกายผิดท่า กล้ามเนื้อเข่าไม่แข็งแรง หรือเกิดจากอุบัติเหตุก็เป็นได้เช่นกัน โดยโรคผิวสะบ้าอักเสบนี้ มักเกิดกับผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไป รวมไปถึงนักกีฬาด้วย

ลักษณะอาการ : ปวดเข่า เข่าบวม มีเสียงดังในเข่า รู้สึกเจ็บเวลาขึ้น – ลงบันได หรือเวลาลุกเปลี่ยนท่า โดยอาการเหล่านี้จะเป็นๆ หายๆ และ จะรู้สึกปวดเข่า เข่าบวม ร้อนที่เข่าเมื่ออาการกำเริบ

5. โรคเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด (Anterior Cruciate Ligament)

สาเหตุ : เกิดจาก 1 ใน 2 เส้นเอ็น ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อกระดูกหน้าแข้ง กับ กระดูกต้นขา เกิดการฉีกขาด มักเกิดกับนักกีฬา เช่น นักฟุตบอล นักบาสเก็ตบอล นักเทนนิส

ลักษณะอาการ : ปวดเข่า เข่าบวม และ เหยียดข้อเข่าไม่ได้ เนื่องจากมีเลือดออกในข้อ

6. โรคเก๊าท์ (Gout)

สาเหตุ : เกิดจากกรดยูริก (Uric Acid) ในเลือดสูง แล้วสะสมอยู่ในข้อเข่า จนเกิดการตกผลึก มักเกิดกับผู้ที่รับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

ลักษณะอาการ : ปวดเข่า เข่าบวม แสบ ร้อน แดงบริเวณหัวเข่า

วิธีรักษาหัวเข่าบวม ทำได้กี่วิธี

วิธีรักษาหัวเข่าบวมทำได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

1. รักษาด้วยยาแพทย์แผนปัจจุบัน

วิธีรักษาหัวเข่าบวม ด้วยการใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบัน มีทั้งยาใช้ภายนอก และ ภายใน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเข่า เข่าบวมไม่มาก แต่จำเป็นต้องให้แพทย์ หรือ เภสัชกรเป็นผู้จ่ายยาให้เท่านั้น เพื่อให้ถูกต้องตามอาการ และ ความปลอดภัยต่อชีวิตขั้นสูงสุด

2. รักษาด้วยการทำกายภาพบำบัด

วิธีรักษาหัวเข่าบวม ด้วยการทำกายภาพบำบัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟู กรณีปวดเข่า เข่าบวม เพื่อให้กล้ามเนื้อข้อเข่า กลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ และ นักกายภาพบำบัดก่อน เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรทำกายภาพบำบัดด้วยตัวเอง หากยังไม่ได้รับคำแนะนำอย่างถูกวิธี

3. รักษาด้วยการฉีดยา

การฉีดยา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปวดเข่า เข่าบวมอย่างหนัก โดยหลักๆ แล้ว แพทย์จะใช้ยาอยู่ 2 ตัว คือ กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) และ คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เพื่อลดการปวดเข่า เข่าบวม ซึ่งการเลือกใช้ยา ขึ้นอยู่กับแต่ละอาการของผู้ป่วย ต้องฉีดเป็นประจำ เนื่องจากประสิทธิภาพของยาอยู่ได้ไม่นาน

4. รักษาด้วยการผ่าตัด

วิธีรักษาหัวเข่าบวม ด้วยการผ่าตัด เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเข่า ที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีใดๆ ได้แล้ว สามารถทำได้ทั้งการผ่าตัดผ่านกล้อง (Arthroscopic Surgery) การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Total Knee Replacement) ซึ่งขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งวิธีรักษาหัวเข่าบวม ด้วยการผ่าตัด มีค่าใช้จ่ายสูงมาก

5. รักษาด้วยยาแพทย์แผนไทย

วิธีรักษาหัวเข่าบวมด้วยยาแพทย์แผนไทย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาและฟื้นฟูอาการปวดเข่า เข่าบวม เจ็บเข่า สามารถทำได้ควบคู่กับการใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบันด้วย ที่สำคัญคือยาสมุนไพรแก้ปวดเข่า เข่าบวม มีราคาไม่สูง เช่น ยากษัยเส้น และ ยาตรีโลก ยาสมุนไพรแก้ปวดเข่า จาก ศูนย์แพทย์แผนไทยหมออรรถวุฒิ โดยตัวยาทั้งสองนี้ สกัดจากสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพ ในการลดอาการเข่าบวม ปวดหัวเข่า เจ็บเข่าได้ เช่น

• เถาวัลย์เปรียง
• กำแพงเจ็ดชั้น
• เถาเอ็นอ่อน
• แก่นแสมสาร
• สมอ เช่น สมอดีงู สมอทะเล สมอไทย สมอพิเภก สมอเทศ
• ดีปลี

สาเหตุที่เราหยิบยก ยาสมุนไพรแก้ปวดเข่า ของศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ ทั้ง 2 ตัวนี้มาแนะนำ ก็เพราะว่า ตัวยาทั้ง 2 ขนานนี้ มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเข่าบวมได้จริง ยิ่งทานคู่กัน ยิ่งเห็นผลชัด สกัดมาจากสมุนไพรธรรมชาติ 100% ที่ไม่ก่อให้เกิดผลค้างเคียง สามารถบำรุงสุขภาพไปในตัวด้วย ซึ่งได้รับการการันตีความไว้วางใจ จากผู้รับประทานจริง มาอย่างยาวนาน มากกว่า 30 ปีเลยทีเดียว

และไม่เพียงแต่ยาสมุนไพรแก้ปวดเข่า ที่ใช้ภายในแล้ว ทางศูนย์แพทย์แผนไทยหมออรรถวุฒิ ยังมียาใช้ภายใน ที่สกัดจากสมุนไพรอีกด้วย นั่นก็คือ ไมรอทนาโนสเปรย์ (Mirott Nano Spray) สเปรย์ลดอาการปวดเข่า เข่าบวม เจ็บเข่า ฯลฯ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ของประเทศไทย ที่ศูนย์แพทย์แผนไทยหมออรรถวุฒิ และ นาโนเทค สวทช. ได้ทำการวิจัยร่วมกัน

โดยไมรอทนาโนสเปรย์ เป็นการพัฒนาอนุภาคนาโน NANOPi การกักเก็บสารสกัดสมุนไพร ด้วยนวัตกรรมนาโนโมเลกุล จึงทำให้สเปรย์ ซึมเข้าสู่ผิวชั้นลึกได้ง่าย ที่สำคัญ ผ่านการวิจัย และ การตรวจสอบประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน Diclofenac แล้วพบว่า “ตัวอนุภาคนาโนของไมรอทนาโนสเปรย์ มีความสามารถในการยับยั้ง Cox2 , PGE , IL1 , TNF และ อนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของอาการปวดเข่า เข่าบวม เข่าอักเสบ เข่าเสื่อม อย่างตรงจุด ครบทุกกลไก ลึกถึงแก่น”

หากใครที่กำลังหาวิธีรักษาหัวเข่าบวม อย่างปลอดภัย เห็นผลชัดเจน พร้อมสุขภาพดีในระยะยาว การเลือกรักษาด้วยยาสมุนไพรแก้ปวดเข่า ที่สกัดจากสมุนไพร โดยศูนย์แพทย์แผนไทยหมออรรถวุฒิ ครบทั้งยาใช้ภายใน และ ภายนอก นับเป็นวิธีที่ดีเลยทีเดียว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่