หากกล่าวถึงวิธีการรักษาโรคเข่าอักเสบ สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีอาการรุนแรงมากนัก นอกจากการรับประทานยาแล้ว ก็มีวิธีรักษาให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งการใช้ยาทาเข่าอักเสบ การใช้สเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่า หรือแม้กระทั่ง การฉีดยาเข้าที่หัวเข่า ก็นับว่าเป็นการรักษาที่นิยมใช้โดยทั่วไป แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า การใช้ยาเหล่านี้ มีข้อดี ข้อเสีย และ ประสิทธิภาพในการรักษาโรคเข่าอักเสบ แตกต่างกันอยู่ไม่น้อย แล้วผู้ที่เป็นหัวเข่าอักเสบ จะเลือกใช้ยารักษาเข่าอักเสบแบบไหนดีล่ะ? วันนี้เรามีคำตอบ มาตอบให้ทุกคนได้ทราบกัน
เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ยาทาเข่าอักเสบ ที่หลายคนอาจไม่รู้
คุณเคยหรือไม่? เวลาซื้อยาทาเข่าอักเสบมาใช้ เพื่อรักษาอาการปวดหัวเข่า หัวเข่าอักเสบ แล้วอาการหัวเข่าอักเสบไม่หายสักที นั่นเป็นเพราะว่า ยาทาเข่าอักเสบ ที่ขายอยู่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่ ไม่ได้มีส่วนผสมของยา ที่ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ แต่จะมีส่วนผสมของ เมนทอล ยูคาลิปตัส หรือ แอลกอฮอล์ ที่ทำให้เรารู้สึกร้อน – เย็น สามารถทำให้อาการปวดเข่าหายไปได้ชั่วขณะ แต่ไม่ได้ช่วยรักษาหัวเข่าอักเสบสักนิด ซึ่งนี่คือหนึ่งเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด เวลาซื้อยาทาเข่าอักเสบมาใช้เอง ว่าทำไมอาการอักเสบ ถึงไม่หายขาดสักที
ดังนั้นต้องสังเกตให้ดีว่า ยาทาเข่าอักเสบที่เราซื้อมาใช้นั้น มีส่วนผสมของยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) หรือเปล่า เพราะยาไดโคลฟีแนค เป็นยารักษาข้อเข่าอักเสบ สามารถบรรเทาอาการปวดหัวเข่า หัวเข่าอักเสบ ปวดตามข้อเข่า โดยไดโคลฟีแนคจะเข้าไปยับยั้งการสร้าง สารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ที่เป็นตัวการ ที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นหลายๆ คนที่เคยใช้แล้ว อาจไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง นั่นเป็นเพราะว่า อยู่ในรูปเจล หรือ สารละลายสเปรย์ ซึ่งไม่สามารถนำส่งตัวยาเข้าใต้ผิวชั้นลึกได้ จึงอาจไม่รู้สึกว่าดีขึ้นเท่าไหร่นั่นเอง
รักษาหัวเข่าอักเสบแบบไหนดี ระหว่างฉีดยา ใช้ยาทาเข่าอักเสบ หรือ ใช้สเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่า
นอกเหนือจากการรับประทานยารักษาข้อเข่าอักเสบแล้ว ยังมีวิธีการรักษาข้อเข่าอักเสบ ที่นิยมใช้อยู่ 3 รูปแบบ นั่นก็คือ ฉีดยา ใช้ยาทาเข่าอักเสบ และ การใช้สเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่า โดยแต่ละรูปแบบ มีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ดังนี้
| รูปแบบการรักษา | ข้อดี | ข้อเสีย |
| การฉีดกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) | – เป็นการฉีดน้ำหล่อลื่น เข้าบริเวณช่องว่างของผิวข้อเข่า – มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเนื้อเยื่อของเข่า – ช่วยลดการเสียดสี ลดอาการปวด บวม อักเสบ | – ต้องฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 – 5 สัปดาห์ – ฤทธิ์ยาอยู่ได้แค่ 6 เดือน ถึง 1 ปี – หลังฉีดอาจปวด บวม แดง และ ต้องพักการใช้เข่าประมาณ 2 – 3 วัน – แพทย์เฉพาะทางส่วนใหญ่ มักไม่พิจารณาฉีด เนื่องจากพบว่า ยังไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัด และอาจไม่เกิดประโยชน์ เท่ากับการบริหารกล้ามเนื้อ |
| การฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) | – ช่วยลดอาการข้อเข่าอักเสบ | – ฤทธิ์ยาอยู่ได้ประมาณ 1 – 3 เดือน – อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้อ หรือ เส้นเอ็น อ่อนแอลง – ไม่ควรฉีดเกิน 1 ครั้งในชีวิต เพราะยามีฤทธิ์ไปกดไขกระดูก ทำให้เข่าเสื่อมได้ และ ข้อเข่าจะไม่สามารถซ่อมธรรมชาติ |
| การฉีดเกล็ดเลือด (Platelet Rich Plasma) | – เป็นการฉีดเกล็ดเลือดหนาแน่น ที่ได้มาจากเลือดของผู้ป่วย เพื่อให้ไปซ่อมแซมเนื้อเยื่อ – เหมาะกับการรักษาข้อเข่าเสื่อม – ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของข้อ เอ็น และกล้ามเนื้อ – ช่วยลดอาการอักเสบ | – ตอนฉีดเกร็ดเลือด จะไม่สามารถใช้ร่วมกับ ยาชาได้ ดังนั้นตอนฉีดจะเจ็บ หรือ ระบม – หลังฉีดเสร็จจะรู้สึกชาบริเวณที่ฉีด ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง และ อาจปวดเข่า 1 – 2 วัน – แพทย์เฉพาะทางส่วนใหญ่ มักไม่พิจารณาวิธีนี้ เนื่องจากพบว่า ยังไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัด และอาจไม่เกิดประโยชน์เท่ากับการบริหารกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนัก ปรับพฤติกรรมการใช้เข่า – มีค่าใช้จ่ายสูง |
| ยาทาเข่าอักเสบ | – มีทั้งชนิดครีม เจล และน้ำมันให้เลือกใช้ – มีหลายสูตรให้เลือก เช่น สูตรทั่วไป สูตรร้อน สูตรเย็น – ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างตรงจุด เพราะต้องใช้มือสัมผัสกับจุดที่หัวเข่าอักเสบ หรือปวดหัวเข่า – ใช้รักษาเข่าอักเสบได้ เพราะมีส่วนผสมของยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) | – ระยะเวลาดูดซึมเข้าผิวหนังช้า ทำให้เกิดการออกฤทธิ์ได้ช้า – ใช้งานไม่สะดวก เนื่องจากมีความเลอะเทอะมือ เสื้อผ้า – แม้บางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาไดโคลฟีแนค ที่ช่วยรักษาข้อเข่าอักเสบได้ แต่ก็มีส่วนผสมแค่เล็กน้อยเท่านั้น จึงจำเป็นต้องกินยารักษาเข่าอักเสบ ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เห็นผลดียิ่งขึ้น – ยาทาเข่าอักเสบที่พบส่วนใหญ่ มักไม่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ แต่จะมีส่วนผสมของเมนทอล ยูคาลิปตัส หรือแอลกอฮอล์ ที่ทำให้รู้สึกร้อน หรือเย็น แล้วทำให้อาการปวดเข่าหายไปชั่วขณะ – อาจดื้อยาในอนาคต |
| สเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่า | – ตัวยาดูดซึมลึกเข้าสู่ผิวหนัง และบริเวณที่หัวเข่าอักเสบโดยง่าย – มีหลายสูตรให้เลือก เช่น สูตรทั่วไป สูตรร้อน สูตรเย็น และมีกลิ่นให้เลือกหลากหลาย – ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างตรงจุด รวมถึงบริเวณโดยรอบด้วย เนื่องจากละอองของสเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่ามีความละเอียดสูง และ กระจายวงกว้าง – ใช้งานได้อย่างสะดวก พกพาง่าย ไม่เลอะเทอะมือและเสื้อผ้าขณะใช้งาน – ใช้รักษาเข่าอักเสบได้ เพราะมีส่วนผสมของยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) | – ต้องระมัดระวังในการใช้งาน ไม่ให้เข้าปาก ตา และจมูกเด็ดขาด เนื่องจากละอองของสเปรย์มีความละเอียดสูง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดด้วย – สเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่าบางชนิด มีส่วนผสมของน้ำหอม อาจไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้น้ำหอม – อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง – แม้บางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาไดโคลฟีแนค ที่ช่วยรักษาข้อเข่าอักเสบได้ แต่ก็มีส่วนผสมแค่เล็กน้อยเท่านั้น จึงจำเป็นต้องกินยารักษาเข่าอักเสบ ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เห็นผลดียิ่งขึ้น – อาจดื้อยาในอนาคต |
รักษาข้อเข่าอักเสบอย่างลงลึก ด้วยสารสกัดสมุนไพร
คุณรู้หรือไม่ว่า สารสกัดจากสมุนไพร สามารถรักษาข้อเข่าอักเสบ ได้อย่างลงลึก ถึงกลไกการอักเสบ ทั้งนี้คุณจำเป็นต้องเลือกใช้ยาทาเข่าอักเสบ จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีผลวิจัยรองรับถึงประสิทธิภาพในการรักษา ผ่านมาตรฐาน GMP มีการรับรองจาก อย. เช่น “ยาสมุนไพรหมออรรถวุฒิ” ที่เป็นสูตรตำรับที่สกัดบริสุทธิ์ ไม่ใช้ตัวทำละลายเคมี ทำให้ได้ผลในการรักษาที่ดี ปลอดภัย ไร้สารตกค้างในร่างกาย ไม่ดื้อยาภายหลังเลิกใช้ และ ไม่เกิดแผลติดเชื้อภายหลังด้วย นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้ง กลไกการอักเสบได้อย่างลงลึก ส่งเสริมกันทุกกลไก ไม่ว่าจะเป็น COX2 , IL1 , TNF, PGE, อนุมูลอิสระ ฯลฯ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ล้างพิษของเสียต่างๆ ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดีต่อไปตามธรรมชาติ โดยตัวยาจากศูนย์แพทย์แผนไทยหมออรรถวุฒิ ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาเข่าอักเสบได้ เช่น
1. ไมรอทนาโนสเปรย์ (Mirott Nano Spray)
“ไมรอทนาโนสเปรย์” สเปรย์รักษาหัวเข่าอักเสบ อาการปวดเข่า เข่าเสื่อม โรคเกี่ยวกับเข่า และกล้ามเนื้อที่ปวดทุกจุดของร่างกาย ต้องบอกเลยว่านี่คือ นวัตกรรมยาทาเข่าอักเสบชนิดสเปรย์ ใหม่ล่าสุดของประเทศไทย เพราะเป็นนวัตกรรมนาโนโมเลกุล ซึ่งทางศูนย์แพทย์แผนไทยหมออรรถวุฒิ ได้ทำการวิจัยร่วมกับนาโนเทค สวทช. เพื่อผลิตไมรอทนาโนสเปรย์ขึ้นมา ด้วยอนุภาคนาโน NANOPi จึงทำให้ตัวยา ซึมลึกผ่านผิว ส่งตัวยาเข้ารักษาตรงจุดที่ใช้ โดยไม่ต้องรับผลเสียจากยากินแก้ปวด หรือ ยาแก้หัวเข่าอักเสบ
ผ่านการวิจัย และ การตรวจสอบประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน Diclofenac แล้วพบว่า “ตัวอนุภาคนาโนของ ไมรอทนาโนสเปรย์ มีความสามารถในการยับยั้งการอักเสบ ได้มากกว่า Diclofenac ถึง 80% และยับยั้ง Cox2 , PGE , IL1 , TNF และ อนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของอาการปวดเข่า เข่าบวม ข้อเข่าอักเสบ เข่าเสื่อม อย่างตรงจุด ครบทุกกลไกลึกถึงแก่นอีกด้วย” สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
2. ยาตรีโลก
ยาตรีโลก เป็นยารักษาข้อเข่าอักเสบ ชนิดรับประทาน สกัดจากสมุนไพร 100% ที่แนะนำให้ทานไปพร้อมกับการใช้ ไมรอทนาโนสเปรย์ เพราะยาตรีโลก มีหน้าที่ไล่ลมในร่างกาย ตามหลักแพทย์แผนไทย เช่น ลมปราณติดขัด ลมตีขึ้นเบื้องสูง ลมปลายปัฏฆาต ลมอัมพฤกษ์ อันเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวเข่า ข้อเข่าอักเสบ เมื่อยาตรีโลกทำหน้าที่ในการเคลียร์ และไล่ลมในร่างกายแล้ว ยากษัยเส้นจะเข้าไปรักษาหัวเข่าอักเสบ ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงฟื้นฟูเส้นประสาท ทำให้ข้อเข่าแข็งแรงขึ้นได้ด้วย โดยสารสกัดจากสมุนไพร ที่อยู่ในยาตรีโลก เช่น
- สารสกัดสมอทั้ง 5 (สมอไทย สมอภิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล)
- สารสกัดดอกคำฝอย
- สารสกัดดีปลี
- สารสกัดขิงแห้ง
- สารสกัดเจตมูลเพลิง
- สารสกัดกระวานเทศ
- สารสกัดทองพันชั่งดอกขาว และ ทองพันช่างดอกเหลือง เป็นต้น
เมื่อมีการใช้ไมรอทนาโนสเปรย์ สเปรย์ฉีดแก้ปวดเข่า และ การทานยารักษาข้อเข่าอักเสบ อย่างยาตรีโลกแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรทำ คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เข่า ไม่ว่าจะเป็น การไม่นั่งพับเพียบ นั่งยอง นั่งขัดสมาธิ เป็นเวลานาน รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อไม่ให้เข่ารับน้ำหนักตัวมากเกินไป ไม่ยกของหนัก รวมไปถึงออกกำลังแต่พอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแรงให้กับข้อเข่า และ ร่างกายทั้งหมด
กดอ่านต่อที่รูปด้านล่าง
