เจาะลึกตรงประเด็น ยารักษาเข่าอักเสบที่ใช้อยู่ ดีจริงหรือ?

อย่างที่ทราบกันดีว่า ข้อเข่าอักเสบ สามารถรักษาได้ และ ควรรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้หัวเข่าอักเสบลุกลาม กลายเป็นโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเข่าตามมา ซึ่งปัจจุบันนี้มียารักษาเข่าอักเสบให้เลือกทาน เลือกรักษา จำนวนมาก บางประเภทสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หลายคนซื้อยารักษาเข่าอักเสบมาทานเอง แต่ทานมานานแล้ว อาการเจ็บเข่า ปวดหัวเข่า ข้อเข่าอักเสบ ก็ไม่ดีขึ้นเลย ดังนั้นเราจะมาเจาะลึกกันว่า ยารักษาเข่าอักเสบที่หลายคนใช้ในทุกวันนี้ ดีจริงหรือไม่? มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไรกันบ้าง

เหตุผลที่กินยารักษาเข่าอักเสบมานาน แต่ไม่หายสักที

อาการปวดหัวเข่าธรรมดา หากไม่ทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะสามารถพัฒนา กลายเป็นหัวเข่าอักเสบได้ หากปล่อยให้อาการปวดหัวเข่าธรรมดา กลายเป็นหัวเข่าอักเสบแล้ว จึงจำเป็นต้องใช้เวลา ในการกินยารักษาเข่าอักเสบ นานมากกว่าเดิมนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้การกินยารักษาเข่าอักเสบ ไม่ประสบผลสำเร็จ เช่น

1. ประสิทธิภาพของยารักษาเข่าอักเสบไม่มากพอ

เช่น หลายคนปวดหัวเข่าเวลาเดินขึ้นบันได แล้วใช้แต่ยาทาภายนอก ซึ่งยาทาภายนอกที่เลือกใช้ มีประสิทธิภาพการรักษาไม่มากพอ จนอาการปวดหัวเข่า ได้พัฒนากลายเป็นหัวเข่าอักเสบแล้ว จึงทำให้เราไม่หายปวดหัวเข่าสักที เมื่อถึงจุดนี้แล้ว จึงไม่สามารถรักษาโรคเข่าอักเสบได้โดยทางเดียว จำเป็นต้องกินยารักษาเข่าอักเสบ ควบคู่ไปด้วย

2. เลือกทานยาผิดประเภท

เช่น บางคนเป็นหัวเข่าอักเสบ แต่เลือกรับประทานยาพาราเซตามอล (Paracetamol) ทั้งที่จริงแล้วยาพาราเซตามอล ใช้บรรเทาอาการปวดหัวเข่า ซึ่งไม่ได้มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบของข้อเข่าเลย

3. ร่างกายไม่ตอบสนองกับยา หรือ ดื้อยา

ต้องบอกเลยว่าเมื่อร่างกายได้กินยาเคมีเข้าไปมากๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว ร่างกายของเราจะไม่ตอบสนองกับยาชนิดนั้น หรือดื้อยา จนทำให้ต้องเปลี่ยนยา หรือไม่มียาตัวไหนรักษาให้หายได้นั่นเอง

4. กินยาไม่สม่ำเสมอ

การกินยาไม่สม่ำเสมอ เช่น กินๆ หยุดๆ หรือ ลืมกินบ่อยๆ จึงไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี หรือไม่หายปวดหัวเข่าสักทีนั่นเอง และอาจส่งผลให้ร่างกายดื้อยา ต้องเปลี่ยนยาตัวใหม่เรื่อยๆ

5. เข้าใจผิดว่ายาปฏิชีวนะ คือ ยาแก้อักเสบ

หลายคนมักเข้าใจผิดว่า ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) กับ ยาแก้อักเสบ คือยาชนิดเดียวกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่า เข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะยาปฏิชีวนะเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบเลย จำเป็นต้องรับประทานตามแพทย์หรือเภสัชกรสั่งจนครบ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อดื้อยา เช่น ยาเพนิซิลลิน (Penicillin) ใช้รักษาอาการการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ส่วนยาแก้อักเสบ เป็นยาที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบ ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น ยาไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) ที่เป็นยารักษาเข่าอักเสบโดยตรง

ข้อดี – ข้อเสีย ของยารักษาข้อเข่าอักเสบ แต่ละชนิด

ยารักษาข้อเข่าอักเสบ มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งยาแพทย์แผนปัจจุบันสำหรับกิน สำหรับฉีด สำหรับทา ยาแพทย์แผนไทย ฯลฯ โดยยารักษาข้อเข่าอักเสบแต่ละชนิด ก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไป โดยเราควรพิจารณาให้ดี ก่อนเลือกใช้ยา แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ และ เภสัชกรก่อนใช้ยา โดยเราขอสรุปข้อดี ข้อเสียของยารักษาข้อเข่าอักเสบ ที่นิยมใช้รักษาในปัจจุบัน ให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

ชื่อยารักษาข้อเข่าอักเสบ	ข้อดี	ข้อเสีย
ยาไอบูโปรเฟน (Ibuprofen)	– เป็นยารักษาเข่าอักเสบ ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบได้ – สามารถหาซื้อเองได้ – เหมาะสำหรับรักษาข้อเข่าอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลาง	– อาจเกิดการระคายเคืองกระเพราะอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน – องค์การอนามัยโลกประกาศเตือน ห้ามผู้ป่วยโควิด-19 ใช้ยา
ยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac)	– เป็นยารักษาเข่าอักเสบ ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบได้ – สามารถหาซื้อเองได้ – บรรเทาอาการเจ็บเข่า ปวดหัวเข่าเวลาเดินขึ้นบันได – ใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อเข่าอักเสบรูมาตอยด์ได้	– ห้ามใช้กับผู้ที่ผ่าตัดหัวใจ หรือทำบายพาส แพ้ยาแอสไพริน เป็นโรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ ฯลฯ – เสี่ยงต่อโรคประจำตัวเดิมกำเริบได้ – อาจทำให้วิงเวียน ง่วงนอน – อาจเกิดอาการคันหรือเป็นผื่นผิวหนัง
ยานาพรอกเซน (Naproxen)	– เป็นยารักษาเข่าอักเสบ ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบ ยับยั้ง COX2 – ช่วยลดฮอร์โมน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ – ใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อเข่าอักเสบรูมาตอยด์ โรคเก๊าท์ ข้อยึดติดได้	– ไม่สามารถหาซื้อเองได้ ต้องสั่งจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น – หากใช้ติดต่อกันนาน จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ หรือ โรคหลอดเลือดในสมอง – ห้ามสตรีมีครรภ์ และผู้ให้นมบุตรใช้ยา เพราะมีอันตรายต่อเด็ก
ยาอินโดเมธาซิน (Indomethacin)	– เป็นยารักษาเข่าอักเสบ ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบได้ – ช่วยลดฮอร์โมน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ – ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดหัวเข่า เข่าบวม เจ็บเข่า – ใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อเข่าอักเสบรูมาตอยด์ โรคเก๊าท์ ระดับปานกลาง ถึง รุนแรง	– ไม่สามารถหาซื้อเองได้ ต้องสั่งจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น – หากใช้ติดต่อกันนาน จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ หรือ โรคหลอดเลือดในสมอง หรือโรคหัวใจที่ร้ายแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ยากลูโคซามีน (Glucosamine)	– ยารักษาเข่าอักเสบทางเลือก – เหมาะกับผู้ป่วยเข่าอักเสบระยะแรกเท่านั้น	– ยังไม่มีผลสรุปทางการแพทย์อย่างชัดเจน ว่าสามารถรักษาข้อเข่าอักเสบได้จริง – มีรายงานจากวารสารสมาคมแพทย์สหรัฐ ทางจักษุวิทยา (JAMA) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2556 ที่ได้เฝ้าระวังผู้ป่วยที่ใช้กูลโคซามีน เพื่อหวังผลในการลดอาการข้อเข่าเสื่อม โดยพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้ หลังรับประทานยากลูโคซามีน จะมีภาวะความดันลูกตาสูงขึ้นอย่างชัดเจน และเมื่อหยุดกิน ความดันก็จะลดลง ซึ่งในประเทศไทยเป็นประเทศ ที่มีการสั่งจ่ายยากลูโคซามีนจำนวนมาก ทั้งรูปแบบยา และ อาหารเสริม แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่มีผลการพิสูจน์ว่า กลูโคซามีนมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมแค่ไหน แต่ก็มีการใช้ไป เพราะเห็นว่าไม่มีโทษ แต่หลังจากมีการรายงานผลข้างเคียงของ กลูโคซามีนที่ชัดเจน แพทย์หรือผู้ป่วยจากนี้คงต้องระวัง เพราะจะทำให้สายตาเสื่อมลงอย่างต่อเนื่อง จากภาวะต้อหิน จนตาบอดในที่สุด” (ที่มา : https://www.hfocus.org/content/2015/07/10419)
ยาโคลชิซิน (Colchicine)	– ยารักษาเข่าอักเสบ โรคเก๊าท์ – ช่วยลดอาการบวม – ช่วยลดการก่อตัวของผลึกที่เกิดจากกรดยูริค อันเป็นสาเหตุของ อาการปวดข้อเข่า ข้อเข่าอักเสบ	– ไม่สามารถหาซื้อเองได้ ต้องสั่งจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น – ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว – มีผลต่อการลดจำนวนเกล็ดเลือดในร่างกาย
ครีม น้ำมัน หรือ สเปรย์แก้ข้อเข่าอักเสบ	– ใช้รักษาเข่าอักเสบได้ เพราะมีส่วนผสมของยาไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ที่อยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)	– แม้บางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของยาไดโคลฟีแนค ที่ช่วยรักษาข้อเข่าอักเสบได้ แต่ก็มีส่วนผสมแค่เล็กน้อยเท่านั้น จึงจำเป็นต้องกินยารักษาเข่าอักเสบ ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เห็นผลดียิ่งขึ้น – ครีม น้ำมัน หรือ สเปรย์แก้ข้อเข่าอักเสบ ที่พบส่วนใหญ่ มักไม่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ แต่จะมีส่วนผสมของเมนทอล ยูคาลิปตัส หรือแอลกอฮอล์ ที่ทำให้รู้สึกร้อน หรือเย็น แล้วทำให้อาการปวดเข่าหายไปชั่วขณะ
กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid)	– เป็นการฉีดน้ำหล่อลื่น เข้าบริเวณช่องว่างของผิวข้อเข่า – มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเนื้อเยื่อของเข่า – ช่วยลดการเสียดสี ทำอาการปวดหัวเข่าเวลาขึ้นบันได ดีขึ้น – ช่วยลดอาการปวด บวม อักเสบ	– ต้องฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 – 5 สัปดาห์ – ฤทธิ์ยาอยู่ได้แค่ 6 เดือนถึง 1 ปี – หลังฉีดอาจปวด บวม แดง และต้องพักการใช้เข่า ประมาณ 2 – 3 วัน – แพทย์เฉพาะทางส่วนใหญ่ มักไม่พิจารณาฉีด เนื่องจากพบว่า ยังไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัด และอาจไม่เกิดประโยชน์ เท่ากับการบริหารกล้ามเนื้อ
คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)	– เป็นการฉีดยา เพื่อช่วยลดอาการข้อเข่าอักเสบ	– ฤทธิ์ยาอยู่ได้ประมาณ 1 – 3 เดือน – ไม่ควรฉีดเกิน 1 ครั้งในชีวิต เนื่องจากมีฤทธิ์ไปกดไขกระดูก ยิ่งทำให้เสื่อม และ ไม่ข้อเข่าจะไม่ซ่อมแซมตนเองตามธรรมชาติ
เกล็ดเลือด (Platelet Rich Plasma)	– เป็นการฉีดเกล็ดเลือดหนาแน่นที่ได้มาจากเลือดของผู้ป่วย ซึ่งจะเข้าไปทำการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ – เหมาะกับการรักษาข้อเข่าเสื่อมระยะแรกมากที่สุด – ช่วยลดอาการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดเบื้องต้น	– หลังฉีดไปแล้วจะรู้สึกชาบริเวณที่ฉีด ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง และ อาจปวดเข่า 1 – 2 วัน – แพทย์เฉพาะทางส่วนใหญ่ มักไม่พิจารณาวิธีนี้ เนื่องจากพบว่า ยังไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัด และอาจไม่เกิดประโยชน์ เท่ากับการบริหารกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนัก ปรับพฤติกรรมการใช้เข่า – มีค่าใช้จ่ายสูง
ยาสมุนไพรรักษาเข่าอักเสบ	– สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ จึงทำให้มีความปลอดภัยสูง – สมุนไพรชนิดเดียว สามารถรักษาได้หลายโรค – ไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างในร่างกาย – บำรุงร่างกายระยะยาว – ร่างกายไม่ดื้อยา – สามารถรับประทานควบคู่ไปกับ ยาแพทย์แผนปัจจุบันได้อย่างปลอดภัย – มีราคาไม่สูง เนื่องจากผลิตในประเทศไทย – ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษา	– ฤทธิ์ยาออกช้ากว่ายาแพทย์แผนปัจจุบัน

คลายกังวล กับผลข้างเคียงของยารักษาเข่าอักเสบ ด้วยยาสมุนไพร รักษาได้จริง

เมื่อทราบข้อดี และ ข้อเสีย ของยารักษาเข่าอักเสบ แต่ละชนิดกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนคงสนใจแนวทางการรักษา ด้วยยาสมุนไพรรักษาเข่าอักเสบ กันหลายท่านอย่างแน่นอน ซึ่งต้องบอกเลยว่า ปัจจุบันนี้วิวัฒนาการทางการผลิตยาแพทย์แผนไทย ก้าวไกลไปมาก เพราะมีผลวิจัยรองรับ ผ่านมาตรฐาน GMP มีการรับรองจาก อย. โดยเฉพาะ “ยาสมุนไพรรักษาเข่าอักเสบ จากศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ” ที่ได้รับความนิยม มีผู้ซื้อซ้ำ ยาวนานมากกว่า 30 ปี เพราะมีผลวิจัยรองรับ ถึงประสิทธิภาพการรักษาเข่าอักเสบได้จริงจาก 3 ตัวยา ดังนี้

1. ยากษัยเส้น

ยากษัยเส้น เป็นยารักษาเข่าอักเสบ สกัดจากสมุนไพร หลากหลายชนิด เช่น เถาวัลย์เปรียงแดงสกัด, เถาวัลย์เปรียงขาวสกัด, โด่ไม่รู้ล้มสกัด, ทองพันชั่งดอกเหลืองสกัด, เถาโคคลานสกัด ฯลฯด้วยสูตรตำรับเฉพาะที่ลงตัว ครบถ้วน สกัดบริสุทธิ์ ไม่ใช้ตัวทำละลายเคมี ทำให้เกิดผลการรักษาข้อเข่าอักเสบได้ดี ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง ซึ่งช่วยยับยั้งกลไกการอักเสบ ลึก ละเอียด ส่งเสริมกันทุกกลไก COX2 , IL1 , TNF, PGE, อนุมูลอิสระ ฯลฯ โดยยากษัยเส้นของหมออรรวุฒิ ไม่เหมือนยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เวลากินเข้าไป ก็ไม่ต้องกังวลกับสารเคมีตกค้างในร่างกาย

2. ยาตรีโลก

ยาตรีโลก เป็นยารักษาเข่าอักเสบ ที่สกัดจากสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น

• สารสกัดสมอทั้ง 5 (สมอไทย สมอภิเภก สมอเทศ สมอดีงู สมอทะเล)
• สารสกัดดอกคำฝอย
• สารสกัดดีปลี
• สารสกัดขิงแห้ง
• สารสกัดเจตมูลเพลิง
• สารสกัดกระวานเทศ
• สารสกัดทองพันชั่งดอกขาว และ ทองพันช่างดอกเหลือง เป็นต้น

โดยยาตรีโลก มีหน้าที่ไล่ลมในร่างกาย ตามหลักแพทย์แผนไทย ซึ่งการไล่ลมนี้เป็นการช่วยลดการปวดหัวเข่า และการอักเสบ ได้ถึงต้นเหตุของโรค โดยลมประจำ เส้นประจำ มีผลต่อการอักเสบของ ข้อ  เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ตามหลักแพทย์แผนไทย หากมีการอักเสบคลั่งสะสม หรือ บวมอักเสบ อยู่ที่บริเวณข้อ เส้นเอ็น ก็ควรต้องแก้ที่ต้นเหตุ ล้างพิษอักเสบ ไหลเวียนเลือดลม เคลียร์ของเสียสะสมในร่างกาย ให้การอักเสบสลายออกไปจากร่างกาย และ ส่งเสริมการซ่อมแซมตนเอง ตามธรรมชาติของเซลล์ด้วย

3. ไมรอทนาโนสเปรย์ (Mirott Nano Spray)

“ไมรอทนาโนสเปรย์” ยารักษาเข่าอักเสบ ตัวใหม่ล่าสุดของศูนย์แพทย์แผนไทย หมออรรถวุฒิ เป็นการพัฒนาอนุภาคนาโน NANOPi การกักเก็บสารสมุนไพร ที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ พัฒนาโดย สวทช. ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำสมุนไพรมาสกัดมากถึง 7 ชนิด เช่น

• ขมิ้นชันสกัด
• ขิงสกัด
• ฝางสกัด
• โด่ไม่รู้ล้มสกัด
• พริกไทยดำสกัด
• เถาวัลย์เปรียงขาวและแดงสกัด

โดยไมรอทนาโนสเปรย์ ผ่านการวิจัยและการตรวจสอบประสิทธิภาพ เมื่อเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน Diclofenac แล้วพบว่า “ตัวอนุภาคนาโนของ ไมรอทนาโนสเปรย์ มีความสามารถในการยับยั้งการอักเสบ ได้มากกว่า Diclofenac ถึง 80% สามารถยับยั้ง Cox2 , PGE , IL1 , TNF และ อนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของอาการปวดเข่า เข่าบวม ข้อเข่าอักเสบ เข่าเสื่อม อย่างตรงจุด ครบทุกกลไก ลึกถึงแก่นของโรค” หากใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง สารสกัดจากไมรอทนาโนสเปรย์ จะไปยับยั้งกลไกการเสื่อม ช่วยชะลอเข่าเสื่อม อีกทั้งส่งผลให้การซ่อมแซมเซลล์ สามารถเติมเต็มตนเองตามธรรมชาติได้ สุขภาพเข่าดีขึ้นด้วย

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่